วันจันทร์ที่ 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

อะไรคือ Permaculture?


โดย Ruth Raubertas & filed under General.

คุณต้องการที่จะมีสุขภาพดีและอาหารอร่อย มีสิ่งแวดล้อมที่สวยงาม ได้ทำงานที่มีความหมายสำหรับตัวเองและครอบครัว ได้สัมผัสธรรมชาติมากขึ้น เด็กๆและสัตว์เลี้ยงอยู่กันอย่างมีความสุข หรือไม่?

คุณต้องการที่จะช่วยดูแลรักษาโลกและสิ่งแวดล้อม ลดการใช้พลังงานที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ ลดโลกร้อน และช่วยลดทอนอำนาจของบรรษัทข้ามชาติที่กำลังกดขี่ผู้คนบนโลก รวมถึงสิ่งแวดล้อมทั้งหมดหรือไม่?

คุณต้องการที่จะทำงาน part-time เพื่อที่จะมีเวลาอยู่กับครอบครัวมากขึ้น มีโอกาสได้ออกแรงกลางแจ้งมากขึ้น และได้ทำในสิ่งที่คุณสนใจจริงๆหรือมีเวลาทำงานบ้านจริงๆหรือไม่?

คุณต้องการที่จะลดค่าใช้จ่ายด้านอาหาร พลังงาน และ ความจำเป็นต่างๆ สร้างระบบเศรษฐกิจในท้องถิ่นหรือสร้างรายได้พิเศษหรือไม่?

ถ้าคำถามทั้งหมดนี้ตรงใจคุณ คุณก็อาจจะสนใจใน Permaculture


คำว่า Permaculture นั้นเกิดขึ้นในปี 1970 โดย บิล มอลลิสัน และเดวิด โฮมเกร็น นักสิ่งแวดล้อมวิทยาชาวออสเตรเลีย โดยแรกเริ่มเดิมทีนั้น พวกเขาตั้งใจจะสร้าง การเกษตรแบบถาวรหรือ Permanent Agriculture แต่มาภายหลังพวกเขาได้ค้นพบว่าพวกเขารวมสิ่งที่เรียกว่า Permanent Culture หรือวิถีชีวิตแบบยั่งยืนถาวรผนวกเข้าไปด้วย

Permaculture นั้นคือระบบการออกแบบที่ดินสำหรับบ้านขนาดเล็ก(หรือหมู่บ้านที่มีขนาดใหญ่ขึ้น) การผลิดอาหาร และพลังงานเพื่อใช้ในชีวิตประจำวัน การศึกษาด้าน Permaculture นั้นประกอบไปด้วยนิเวศวิทยา ความยั่งยืน การเกษตรอินทรีย์ การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การออกแบบบ้าน การรีไซเคิล การใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม และอี่นๆอีกมากมาย

ผู้เชี่ยวชาญด้าน Permaculture ได้พิจารณาแล้วว่า ระบบการเกษตรและธุรกิจการเกษตรขนาดใหญ่ ที่ประเคนใช้สารเคมีและยาฆ่าแลงจำนวนมาก อีกทั้งยังใช้วิธีการที่ไม่เป็นมิตรต่อธรรมชาติและสัตว์ รวมไปถึง วิถีการเกษตรเชิงเดี่ยวที่พบได้มากมาย(เช่นไร่ข้าวโพด ถั่วเหลือง ฯลฯ)นั้นเป็นความผิดพลาดอย่างร้ายแรง นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่า วิถีการเกษตรแบบนี้ทำให้ผึ้งในธรรมชาติหายไป ซึ่งรวมถึงสัตว์และแมลงจำพวกอื่นๆด้วย เมื่อมนุษย์ล้มเหลวที่จะอยู่ร่วมกับธรรมชาติ แต่ไปใช้วิธีการกำหนดเป้าหมาย และใช้วิธีที่ทำลายธรรมชาติแทน ก็หลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะก่อความเสียหายให้กับสิ่งแวดล้อมทางธรรมชาติของโลก แนวทางของ Permaculture จึงเป็นการทำงานและอยู่ร่วมกับธรรมชาติอย่างระมัดระวัง ด้วยการวางแผนและออกแบบอย่างรัดกุม เพื่อที่จะสร้างระบบที่รักษาโลกและมนุษย์ พร้อมๆไปกับการทำงานให้น้อยลงแต่ได้ผลมากขึ้น (ซึ่งบางคนถึงกับพิจารณาว่าเปลญวนนั้นเป็นสิ่งสำคัญของ Permaculture เลยทีเดียว - นัยว่าจุดสำคัญคือ เมื่อจัดระบบสิ่งแวดล้อมและธรรมชาติเสร็จแล้ว ต้องทำงานได้อย่างสบายๆ เปรียบเสมือนการนอนบนเปลญวน - ผู้แปล)

หลักการพื้นฐานบางอย่างของ Permaculture รวมไปถึงสิ่งเหล่านี้ด้วย


  1. ทำงานร่วมกับธรรมชาติ ไม่ใช่ทำลายธรรมชาติหรือฝืนธรรมชาติ
  2. ปลูกพืชหลากหลายแทนที่จะปลูกพืชเชิงเดี่ยว
  3. ใช้ประโยชน์จากระบบภูมิอากาศย่อยในพื้นที่ เช่น พื้นที่ๆมีแสงแดดเยอะ พื้นที่ๆมีร่มเงา พื้นที่ๆแห้ง หรือชื้นบนผืนที่ดิน
  4. ใช้ประโยชน์จากความสัมพันธ์ระหว่างพืช น้ำ โครงสร้างต่างๆ แมลง และสัตว์
  5. เน้นการปลูกพืชที่ไม่ต้องการการดูแลมาก และเป็นพืชหรือต้นไม้ที่มีอายุยาวนาน
  6. จัดสภาพแวดล้อมให้เกื้อกูลกันเพื่อที่จะให้ระบบสามารถดูแลกันเองตามธรรมชาติได้ เช่นการเลี้ยงไก่ไว้กินแมลงรบกวน เลี้ยงเป็นไว้กินวัชพืชหรือเพื่อช่วยในการพรวนดิน ฯลฯ
  7. ปลูกพืชหลายชั้นในพื้นที่เดียวกัน นับตั้งแต่พืชหัว ไปจนถึงไม้ยืนต้น ซึ่งการทำสวนแนวตั้งก็สามารถช่วยเพิ่มผลผลิตในลักษณะของป่าอาหาร(Food forest) ได้
  8. การแบ่งพื้นที่ใช้สอยตามความบ่อยในการใช้งาน เช่น ปลูกพืชสมุนไพรและผักเอาไว้ใกล้ๆบ้าน และพืชบางอย่างที่นานๆใช้สอยที เอาไว้ไกลๆบ้าน
  9. ระบบกักเก็บน้ำและการบริหารจัดการน้ำ(โดยการใช้แรงโน้มถ่วงของโลกให้เป็นประโยชน์)
  10. ปรับใช้พลังงานแสงอาทิตย์หรือพลังงานทางเลือกอื่นสำหรับบ้านและสวน


การออกแบบ Permaculture จึงเป็นหนทางที่ทุคนสามารถมีส่วนร่วมในการช่วยลดโลกร้อนและการหมดลงของเชื้อเพลิงฟอสซิลได้ การออกแบบ Permaculture นั้นสามารถปรับใช้ได้กับทุกพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ชนบท พื้นที่เมือง ชานเมือง หรือแม้แต่ในเมืองเองก็ตาม ตัวอย่างเช่นพื้นที่บ้านของ Jules Dervaes ซึ่งเป็นพื้นที่ในเมืองสามารถผลิตอาหารได้ถึง 6 พันปอนด็ในพื้นที่เพียง หนึ่งในสิบเอเคอร์(ประมาณ 100 ตรว.) กับหลักการออกแบบ permaculture

Permaculture สามารถปรับใช้ได้กับทุกขนาดพื้นที่ ขึ้นกับเวลาและทรัพยากรที่คุณสามารถลงทุนได้ แม้แต่การที่คุณจะปลูกพืชสมุนไพรลงกระถาง ทำปุ๋ยเองจากของเหลือในครัว การเรียนรู้ที่จะปลูกพืชป่ากินได้ หรือการซื้ออาหารจากเกษตรกรนืพื้นที่ให้มากขึ้น ฯลฯ ก็สามารถทำให้คุณได้ซึมซับและเข้าถึง Permaculture ได้แล้ว

ที่มา
http://permaculturenews.org/2014/05/06/permaculture-can-farm-hammock/

2 ความคิดเห็น: